เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ผลที่เเท้จริงของมะม่วงหิมพานต์
มะม่วงหิมพานต์เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศแถบอเมริกาใต้ ในประเทศไทยปลูกมากทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลมีลักษณะแปลกประหลาดเหมือนมีเมล็ดอยู่นอกผล
รู้กันไหมว่าส่วนที่รูปร่างคล้ายผลชมพู่ เนื้อนิ่ม ฉ่ำน้ำ มันคือ ผลเทียม เมื่อผลสุกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเหลือง เหลืองอมแดง ส้ม หรือแดง รสเปรี้ยวอมฝาด สามารถนำไปประกอบอาหาร แปรรูป หรือจะกินสดเป็นผลไม้ก็ได้ ในขณะที่ผลแท้ของมะม่วงหิมพานต์ คือส่วนที่มีรูปร่างเหมือนไต ห้อยติดอยู่กับปลายผลเทียม ซึ่งคนทั่วไปเรียกว่า “เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ (Cashew Nut)”
“เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ (Cashew Nut)” เนื้อข้างในมีสองซีกประกบกัน สีขาวนวล นำมาอบ คั่ว หรือทอด จะมีรสอร่อยหวานมัน จนยอมรับกันทั่วโลกว่าเป็นเมล็ดพืชเปลือกแข็ง (Nut) ที่ได้รับความนิยมรองจากอัลมอนด์
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์มีไขมันชนิดดีร้อยละ 75 จากไขมันทั้งหมด คือไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี อีกทั้งในเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ยังไม่มีคอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีแมกนีเซียมที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ มีทองแดงช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้กับกระดูก ป้องกันภาวะกระดูกพรุน นอกจากนี้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีฟอสฟอรัส แมงกานีส โพแทสเซียม และเส้นใยอาหารอีกมากมาย เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม ให้พลังงานเกินกว่า 500 กิโลแคลอรี ผู้ที่ควบคุมน้ำหนักจึงควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ
ว้าว! ประโยชน์เยอะขนาดนี้ ไม่กินไม่ได้แล้ว แต่จะกินเมล็ดมะม่วงหิมพานต์อย่างเดียวตลอดก็คงจะเบื่อคุกกี้หรือขนมที่มีส่วนประกอบของเมล็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่สำหรับคนที่รักสุขภาพแต่อยากกิน ขนม หรือคุกกี้ คุกกี้เพื่อสุขภาพก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว