top of page
Nobel39 and Kon Cool

เรามารู้จักคุกกี้เพื่อสุขภาพกันเถอะออเจ้า

ใครกำลังกินคลีน อยากลดน้ำหนัก แต่ห้ามใจไม่ให้กินคุกกี้ไม่ได้ เราขอเสนอคุกกี้เพื่อสุขภาพกินแล้วไม่อ้วนแน่นอน แถมยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

หลายคนที่ยังในช่วงลดน้ำหนัก ต้องเคยมีอาการห้ามปากไม่ได้อยากกินคุกกี้บ้างแหละ ถึงแม้จะพยายามงด อด ไม่มองหาไม่สนใจแล้วก็ตาม แต่พอเข้าฟีดเฟสบุ๊ค อินสตราแกรมเท่านั้นแหละ โอ้โห้ทั้งภาพและวิดีโอเต็มหน้าฟีดเลยจ้า ใครเล่าจะอดใจไหว ใช่ไหมป่ะ โถ่ววว!ถ้าอดไม่ได้ก็กินไปเลยซิ นี่เลย “ Lovely cookie” คุกกี้เพื่อสุขภาพ มีให้เลือกหลายรสไม่ว่าจะเป็น ดาร์กช็อกโก แลต ชาเขียว งาดำ น่ากินสุดๆไปเลย นอกจากจะช่วยแก้อยากคุกกี้แล้วยังได้ประโยชน์อีกด้วยนะออเจ้า จะว่าไปเรามาดูประโยชน์ของ ดาร์กช็อกโก แลต ชาเขียว งาดำ กันดีกว่า

  1. สวยท้าแดด เพราะมีสาร“ฟลาโวนอยด์” (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

  2. ผิวนุ่มชุ่มชื้น ดาร์กช็อกโกแลตอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, แคลเซียม, วิตามิน A, B1, C, D และวิตามิน E

  3. ลดความเครียดส่งผลให้แก่ช้า ดาร์กช็อกโกแลตก็สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนผิว ในดาร์คช็อกโกแลตจะช่วยปรับฮอร์โมนของเราให้เป็นปกติและเร่งร่างกายให้ขับสารเอนโดรฟีนหรือฮอร์โมนแห่งความสุขออกมา จึงทำให้คนที่ได้กินดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปอารมณ์ดี๊ดี ลดความเครียดที่มีและเมื่ออารมณ์ดีก็จะส่งผลไปถึงสุขภาพผิวพรรณให้สวยสดใสเปล่งปลั่งไร้ริ้วรอยนั่นเอง

  4. ช่วยลดคอเรสเตอรอล สารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลื­­­อดได้ และยังช่วยปรับสมดุลความดันโลหิตได้อีกด้วย เพราะช็อกโกแลตชนิดนี้มีกรดโอเลอิกสูง ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย

  5. บำรุงหัวใจและเลือด จากผลการวิจัยของประเทศสวีเดนเผยว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งช่วยลดความเสี่ยงเ­­­สียชีวิตด้วยโรคหัวใจได้สูงถึงร้อยละ 44 ทั้งนี้เป็นเพราะปริมาณสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตนั้นช่วยป­­­รับสมดุลความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจมากขึ้น ช่วยขยายหลอดเลือด ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวที่จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบตันในเว­­­ลาต่อมา สารฟลาโวนอยด์ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้น­­­านมากขึ้นถึง 2-3 ชั่วโมง

  6. เร่งผมยาวผมสลวยสวยเก๋ ดาร์กช็อกโกแลตมีทั้งธาตุเหล็ก, แคลเซียม, สังกะสี และทองแดง ซึ่งมีส่วนช่วยเร่งการผลัดเซลล์ใหม่ แถมยังมีสรรพคุณในเรื่องการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจน จึงส่งผลให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีทำให้ผมหนาและสลวยเงางามไปด้วย

  7. ลดอาการซึมเศร้า ดาร์กช็อกโกแลตมีสารเซโรโทนินโดพามีนและฟีนิลไทลามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สามารถช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ ก็ในดาร์กช็อกโกแลตมันมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โมโนเอมินเอ็กซิเดส หรือเรียกสั้นๆว่า ‘’MAO inhibitor’’ ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับยา anti-depressent ที่ใช้กับโรคซึมเศร้านั่นเอง และเจ้า MAO inhibitor จะไปทำให้สารสื่อประสาทต่างๆ สามารถทำงานได้ดีขึ้น พอส่วนต่างๆทำงานได้ดีขึันแล้วความคิดของคุณก็จะแจ่มใสขึ้นตามมา รู้อย่างนี้แล้วเมื่อรู้ตัวว่ากำลังเศร้า เหงาซึม หาทางออกไม่เจอ ก็ลองหยิบดาร์กช็อกโกแลตมากินเพลินๆสักนิดนะคะ

  8. ความอยากอาหาร การทานช็อกโกแลตจะทำให้สมองกลีบหน้าทำงานดีขึ้น กล่าวคือ มันเป็นศูนย์กลางที่สามารถลดความอยากอาหารให้กับคุณได้ รู้อย่างนี้มีดาร์กช็อคโกแลตติดกระเป๋าสักแท่งนี่ไม่เลวเลยน้าา

  9. การลดน้ำหนัก ข่าวดีสำหรับสาวๆที่อยากลดน้ำหนักกัน คือ มีการวิจัยที่พบว่า คนที่ทานช็อกโกแลตในปริมาณที่ปกติจะมีรูปร่างที่เล็กลงกว่าคนที่ไม่ทานช็อกโกแลตเลย เพียงแต่การทานช็อกโกแลตนั้นต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไปเพราะอาจทำให้คุณมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นแทนได้

  1. มีส่วนในการรักษาโรคปวดศีรษะไปจนถึงโรคซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี โดยประเทศจีนได้มีการใช้ชาเขียวในการรักษาโรคต่างๆ มาเป็นเวลามากกว่า 4,000 ปีมาแล้ว

  2. มีส่วนช่วยแก้หวัด แก้อาการร้อนใน ช่วยในการขับสารพิษ และช่วยขับเหงื่อในร่างกาย

  3. ช่วยแก้อาการเมาเหล้า อีกทั้งยังทำให้สร่างเมาได้เป็นอย่างดี

  4. มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดการเจริญอาหาร

  5. มีส่วนช่วยในการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงมีส่วนช่วยในการล้างสารพิษและช่วยกำจัดพิษในลำไส้ได้

  6. ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในร่างกาย

  7. ป้องกันตับจากพิษต่างๆ รวมทั้งโรคชนิดอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับตับได้

  8. มีฤทธิ์ในการต้านอาการอักเสบ ต้านจุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส รวมทั้งช่วยต้านเชื้อ Botulinus และเชื่อ Staphylococcus

  9. มีส่วนช่วยในการขับปัสสาวะ และช่วยป้องกันนิ่วในถุงน้ำดีและในไต

  10. ช่วยในการห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลได้ช้าลง

  11. มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคข้ออักเสบรูมาติก ซึ่งเป็นโรคที่มีอาการอักเสบบวมแดง ส่งผลทำให้ปวดเมื่อตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ โดยอาการลักษณะนี้มักจะเกิดกับวัยกลางคน

  12. ใช้เป็นยาพอกเพื่อรักษาแผลอักเสบ แผลพุพอง ฝีหนอง ไฟไหม้ รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการผดผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย ใช้เป็นยากันยุง รวมทั้งแก้ผิวร้อนแห้งได้เป็นอย่างดี

  13. มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดการผ่อนคลายอารมณ์ ช่วยระบายความร้อนที่เกิดกับศีรษะและเบ้าตา จึงทำให้ตาสว่าง ไม่ง่วงนอน แถมยังทำให้หายใจสดชื่นได้อีกด้วย

  14. ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเสีย และท้องบิดได้เป็นอย่างดี

  15. มีส่วนช่วยในการแก้อาการกระหายน้ำ ช่วยในการระบายความร้อนให้ออกจากปอด แถมยังช่วยขับเสมหะได้อีกด้วย

งาดำ

  1. บรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์ โดยธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง

  2. บำรุงผิวพรรณและกระดูก ก็เพราะว่างาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลย

  3. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด สารเซซามีนและสานเซซาโมลีนที่อยู่ในงาดำ เป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้ในงาดำก็ยังอุดมด้วยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่มึโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ยิ่งรับประทานก็ยิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย

  4. บำรุงหัวใจ เพราะงาดำสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง

  5. ป้องกันโรคมะเร็ง สารต้านอนุมูลอิสระที่อัดแน่นเต็มเมล็ดงาดำ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้งาดำกลายเป็นอาหารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ก็ลดลง นอกจากนี้สารเซซามีนที่มีอยู่ในงาดำก็ยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับและเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง แต่ทั้งนี้เอง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ

  6. ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องท้องผูกไปได้เลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะ

  7. บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS) กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาของคุณสาว ๆ หลายคน เพราะทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลย

  8. แก้ผมร่วง บำรุงเส้นผม งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3,6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี ยิ่งถ้าหากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำด้วยละก็ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ไม่หลุดร่วงและยังดกดำเงางามขึ้นค่ะ

  9. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แคลเซียมและแมกนีเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีในงาดำก็ยังเข้าไปช่วยเสริมสร้างทำงานของเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

  10. บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำสามารถช่วยป้องกัน และชะลอกการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยในการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มสูงวัยรับประทานสารสกัดจากงาดำแบบแคปซูลปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวันติดต่อกัน 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ดีแบบนี้ต้องรีบหามาลองแล้ว

  11. บำรุงสายตา ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็จะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ จึงทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสายตาและตับไปพร้อม ๆ กัน เมื่อตับมีสุขภาพดี ดวงตาก็จะชุ่มชื้นและใสปิ๊ง หมดปัญหาสุขภาพตาไปได้เลย

สนใจติดต่อ : https://lovelycoookie.wixsite.com/cookie

Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
ยังไม่มีแท็ก
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page